ภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ โลกเวทมนตร์

ภาพยนตร์[5][6][7]วันที่ฉายผู้กำกับผู้เขียนบทผู้อำนวยการสร้าง
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์
(Harry Potter and the Philosopher's Stone)
16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 (2001-11-16)คริส โคลัมบัส[8][9]สตีฟ โคลฟส์[10]เดวิด เฮย์แมน
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ
(Harry Potter and the Chamber of Secrets)
15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 (2002-11-15)
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
(Harry Potter and the Prisoner of Azkaban)
31 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 (2004-05-31)อัลฟอนโซ กัวรอน[11]เดวิด เฮย์แมน, คริส โคลัมบัส และ มาร์ค แรดคลิฟฟ์
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี
(Harry Potter and the Goblet of Fire)
18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 (2005-11-18)ไมค์ นิวเวลล์[12]เดวิด เฮย์แมน
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์
(Harry Potter and the Order of the Phoenix)
11 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (2007-07-11)เดวิด เยตส์[13][14][15]ไมเคิล โกลเดนเบิร์ก[16]เดวิด เฮย์แมน และ เดวิด แบร์รอน
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม
(Harry Potter and the Half-Blood Prince)
15 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 (2009-07-15)สตีฟ โคลฟส์[10]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1
(Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 1)
19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 (2010-11-19)เดวิด เฮย์แมน, เดวิด แบร์รอน และ เจ. เค. โรว์ลิง
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2
(Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2)
15 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 (2011-07-15)

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (2001)

ในอินเดียและสหรัฐใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Harry Potter and the Sorcerer's Stone
เดวิด เฮย์แมน อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์ทุกเรื่องในโลกเวทมนตร์

แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายอายุสิบเอ็ดปีที่ดูเหมือนเป็นเด็กธรรมดาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วเป็นพ่อมดและเป็นผู้รอดชีวิตจากลอร์ดโวลเดอมอร์ รูเบอัส แฮกริดช่วยเหลือแฮร์รี่จากญาติมักเกิลใจร้าย (ตระกูลเดอร์สลีย์) และพาเขาไปยังโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ เขาและเพื่อนของเขารอน วีสลีย์และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ได้เข้าไปพัวพันในความลึกลับของศิลาอาถรรพ์ซึ่งถูกเก็บอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้

เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1998 วอร์เนอร์บราเธอส์ ซื้อลิขสิทธิ์ทำภาพยนตร์จากนวนิยายแฟนตาซี แฮร์รี่ พอตเตอร์ สี่เล่มแรก ของ เจ. เค. โรว์ลิง เป็นจำนวนเงินเจ็ดหลัก[17] หลังได้รับการแนะนำจากผู้อำนวยการสร้าง เดวิด เฮย์แมน[18] วอร์เนอร์บราเธอร์ได้สังเกตเห็นถึงความปรารถนาและความคิดของโรว์ลิงเกี่ยวกับภาพยนตร์เมื่อร่างสัญญาของเธอ หนึ่งในข้อตกลงหลักของเธอก็คือพวกเขาต้องถ่ายทำในประเทศอังกฤษกับนักแสดงชาวอังกฤษทั้งหมด[19] ซึ่งวอร์เนอร์บราเธอร์ก็ทำตามข้อตกลงนั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2000 นักแสดงที่ไม่เป็นที่รู้จักอย่าง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และนักแสดงหน้าใหม่ รูเพิร์ต กรินต์ และ เอ็มมา วอตสัน ถูกคัดเลือกให้เล่นเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์, รอน วีสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ตามลำดับ[20] คริส โคลัมบัส ถูกจ้างให้กำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือเล่มแรก แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์[8] พร้อมกับ สตีฟ โคลฟส์ ที่ถูกเลือกให้มาเขียนบทภาพยนตร์[21]

การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2000 ที่ ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2001[22][23] พร้อมกับทำงานขั้นตอนสุดท้ายในเดือนกรกฎาคม[24] มีการถ่ายทำที่ สถานีรถไฟกอร์ทแลนด์ ที่ นอร์ท ยอร์กเชียร์ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2000[25] วอร์เนอร์บราเธอร์ได้วางแผนที่จะปล่อยภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์หลังวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2001 ทำให้มีเวลาถ่ายทำสั้นเกินไป ส่งผลให้ผู้กำกับหลายคนถอนตัวออกจากการพิจารณา เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา วอร์เนอร์บราเธอร์จึ่งได้เลื่อนวันฉายออกไป และ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ จึงได้ฉายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐ[26]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ (2002)

แฮร์รี, รอนและเฮอร์ไมโอนี ได้กลับมาเรียนที่ฮอกวอตส์ในปีที่สอง แต่ห้องความลับที่ซ่อนอยู่ภายในโรงเรียนได้ถูกเปิดออก ทำให้นักเรียนและภูตผีกลายเป็นหินโดยไม่ทราบสาเหตุ พวกเขาแก้ไขปริศนาของห้องและค้นพบทางเข้าเพื่อค้นหาและเอาชนะผู้ร้ายที่แท้จริง

โคลัมบัสและโคลฟส์ กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์อีกครั้ง โดยดัดแปลงจากหนังสือเล่มที่สอง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ[9][10] แค่สามวันหลังจากฉายภาพยนตร์เรื่องแรก งานสร้างเริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001[27] ที่ เซอร์รีย์, อังกฤษ และถ่ายทำต่อเนื่องที่ ไอล์ออฟแมน และอีกหลายที่ในบริเตนใหญ่ หลายฉากในฮอกวอตส์มาจากลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ[28][29] การถ่ายทำสิ้นสุดเมื่อช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2002[28] และใช้เวลาถึงต้นเดือนตุลาคมอยู่ในช่วงหลังการผลิต[30] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 ก่อนจะฉายเป็นวงกว้างเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นับเป็นเวลาหนึ่งปีหลัง ศิลาอาถรรพ์ ออกฉาย[31][32]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (2004)

เมื่อนักโทษลึกลับ ซิเรียส แบล็ก หลบหนีออกจากคุกอัซคาบันและเป้าหมายของเขาคือฮอกวอตส์ ที่ผู้คุมวิญญาณเฝ้าอยู่เพื่อปกป้องแฮร์รี่และเพื่อนของเขา แฮร์รี่เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอดีตของตัวเองและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนักโทษที่หลบหนี

โคลัมบัส ผู้กำกับจากสองภาคที่แล้ว ตัดสินใจไม่กำกับภาคที่สาม[9] แต่ทำหน้าที่อำนวยการสร้างร่วมกับเฮย์แมนแทน[33] วอร์เนอร์บราเธอร์จึงดึงรายชื่อขึ้นมาสามคนเพื่อเป็นตัวแทนโคลัมบัส ซึ่งประกอบไปด้วย คัลลี เคาลี, เคนเน็ธ บรานัค (ผู้แสดงเป็น กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต ใน ห้องแห่งความลับ) และ อัลฟอนโซ กัวรอน ซึ่งกัวรอนเป็นคนที่ถูกเลือกให้เป็นผู้กำกับ[11] ตอนแรกกัวรอนรู้สึกกังวลมากเพราะว่าเขารับงานโดยที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือหรือดูภาพยนตร์มาก่อน แต่ต่อมาได้เซ็นสัญญาหลังจากอ่านหนังสือและเข้าใจเรื่องราวทันที[34][33] ผู้แสดงเป็น อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ในสองภาคที่แล้ว ริชาร์ด แฮร์ริส ถูกแทนที่โดย ไมเคิล แกมบอน หลังจากแฮร์ริสเสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2002[35][36] แกมบอนไม่สนใจว่าตัวเองจะลอกเลียนแฮร์ริส แต่ใช้การตีความของตัวเองรวมถึงการใช้สำเนียงไอริชเล็กน้อยสำหรับบทบาท[37] เขาถ่ายทำฉากของเขาเสร็จภายในสามสัปดาห์[38] แกรี โอลด์แมน ถูกเลือกให้แสดงเป็น ซิเรียส แบล็ก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003[39] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003[39] ที่ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอและการถ่ายทำสิ้นสุดเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2003[40] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 ที่นิวยอร์ก[41] จากนั้นฉายที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม และในสหรัฐเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน[7] เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดที่ฉายในระบบไอแมกซ์[42]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี (2005)

หลังควิดดิชเวิลด์คัพ แฮร์รี่กลับไปที่ฮอกวอตส์และพบว่าตัวเองเข้าร่วมแข่งขันในการประลองเวทไตรภาคี การแข่งขันที่ต้องทำสามภารกิจที่อันตราย แฮร์รี่ถูกบังคับให้แข่งขันกับอีกสามคนที่ถูกเลือกโดย ถ้วยอัคนี ได้แก่ เฟลอร์ เดอลากูร์, วิคเตอร์ ครัมและเซดริก ดิกกอรี่

เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2003 ผู้กำกับชาวอังกฤษ ไมค์ นิวเวลล์ ถูกเลือกให้กำกับภาคที่สี่หลัง ผู้กำกับ นักโทษแห่งอัซคาบัน อัลฟอนโซ กัวรอน ประกาศว่าเขาจะไม่กำกับภาคต่อให้ เฮย์แมนกลับมาอำนวยการสร้างและโคลฟส์กลับมาเขียนบทให้อีกครั้ง[12] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2004[43] ฉากที่มีนักแสดงหลักนั้นเริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2004 ที่ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ[44][45] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ที่ลอนดอน[46] และฉายปกติที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน[47] ถ้วยอัคนี เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดที่ได้เรต PG-13 จาก สมาคมภาพยนตร์แห่งอเมริกา (MPAA) เนื่องจาก "มีฉากความรุนแรงในจินตนาการและภาพที่น่ากลัว"[48] เรต M จาก คณะกรรมการจัดประเภทแห่งออสเตรเลีย (ACB),[49] และเรต 12A จาก คณะกรรมการจัดประเภทภาพยนตร์แห่งอังกฤษ (BBFC) สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์ที่มืดมน, ความรุนแรงในจินตนาการ, ภัยคุกคามและภาพที่น่ากลัว[50]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ (2007)

เดวิด เยตส์ ผู้กำกับภาพยนตร์ทุกเรื่องในแฟรนไชส์ตั้งแต่ ภาคีนกฟีนิกซ์

แฮร์รี่กลับมาที่ฮอกวอตส์อีกครั้งในปีที่ห้าและพบว่าโลกของผู้วิเศษนั้นไม่เชื่อว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์ นั้นกลับมา เขาจึงต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จึงสร้าง กองกำลังลับ เพื่อต่อต้านการปกครองของ โดโลเรส อัมบริดจ์ และเรียนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดในทางปฏิบัติ สำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง[51]

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ยืนยันว่าจะกลับมารับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์อีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2005[52] พร้อมกับ รูเพิร์ต กรินต์, เอ็มมา วัตสัน, แมทธิว ลูอิส (เนวิลล์ ลองบัตท่อม) และ บอนนี ไรท์ (จินนี่ วีสลีย์) ก็ยืนยันว่าจะกลับมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005[53][54][55][56] เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 เฮเลน แม็คครอรี ถูกคัดเลือกให้แสดงเป็น เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์[57] แต่ว่าเพราะเธอตั้งครรภ์จึงถูกคัดออก และเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ ถูกคัดเลือกให้แสดงแทนบทดังกล่าว[58] เรล์ฟ ไฟนส์ กลับมารับบท ลอร์ดโวลเดอมอร์[59] เดวิด เยตส์ ผู้กำกับรายการโทรทัศน์ชาวอังกฤษ ถูกเลือกให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ หลัง ไมค์ นิวเวลล์ ผู้กำกับ ถ้วยอัคนี, ฌอง-ปิแอร์ จูเนต์, กิเยร์โม เดล โตโร, แมททิว วอจ์น และ มิรา ไนเออร์ ปฏิเสธข้อเสนอ[60][61] เนื่องจาก สตีฟ โคลฟส์ ผู้เขียนบทให้กับภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ สี่ภาคแรกนั้นไม่สะดวก ทำให้ ไมเคิล โกลเดนเบิร์ก รับทำหน้าที่เขียนบทแทน[16] การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 และสิ้นสุดเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม ค.ศ. 2006[62][63] การถ่ายทำหยุดพักชั่วคราวเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 เป็นเวลาสองเดือน เพื่อให้ แรดคลิฟฟ์ ได้สอบ A/S Levels และ วัตสันได้สอบ GCSE[64] ฉากภายนอกอาคารถ่ายทำที่อังกฤษและสกอตแลนด์ ส่วนฉากภายในอาคารถ่ายทำที่ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ[65][66][67] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2007 ที่โตเกียว, ญี่ปุ่น[68] และฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 ที่ โอเดียนเลสเตอร์สแควร์ ใน ลอนดอน[69] ฉายทั่วไปที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม[70] และที่สหรัฐเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม[71]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม (2009)

โวลเดอมอร์และผู้เสพความตายของเขากำลังเพิ่มความหวาดกลัวต่อโลกเวทมนตร์และโลกมักเกิ้ล ดัมเบิลดอร์ได้เดินทางไปเชื้อเชิญให้ ฮอเรซ ซลักฮอร์น เพื่อนเก่าและอดีตอาจารย์สอนวิชาปรุงยาของโรงเรียนฮอกวอตส์กลับมาสอนอีกครั้ง แฮร์รี่ได้ครอบครองหนังสือเรียนที่มีคำอธิบายประกอบไว้อย่างแปลกประหลาด ซึ่งหนังสือดังกล่าวนั้นเคยเป็นของ "เจ้าชายเลือดผสม"[72]

เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 เยตส์ประกาศว่าเขาจะกลับมารับตำแหน่งผู้กำกับอีกครั้ง[14] เช่นเดียวกับ โคลฟส์ ซึ่งจะกลับมาเขียนบทให้อีกครั้งหลังข้ามภาคห้าไป พร้อมกับ เฮย์แมนและเดวิด บาร์รอน กลับมาทำหน้าที่อำนวยการสร้าง[73] ตอนแรก วัตสัน ตัดสินใจว่าจะไม่กลับมาในภาคที่หก[74] แต่ว่าเปลี่ยนใจหลังวอร์เนอร์บราเธอส์เปลี่ยนแปลงตารางงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการสอบของเธอ[75] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2007[76] และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2008[77] ถึงแม้ว่า แรดคลิฟฟ์, แกมบอน และ จิม บรอดเบนท์ (ซลักฮอร์น) จะเริ่มถ่ายทำช่วงท้ายเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 นักแสดงคนอื่นก็เริ่มถ่ายทำช้าเช่นกัน ได้แก่ วัตสัน เริ่มถ่ายทำช่วงเดือนธันวาคม ค.ศ. 2007, แอลัน ริกแมน (เซเวอร์รัส สเนป) เริ่มเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 และ บอนแฮม เริ่มกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008[78][79] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 ที่โตเกียว, ญี่ปุ่น[80] และฉายทั่วไปที่สหราชอาณจักรและสหรัฐเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม[81]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 (2010)

แดเนียล แรดคลิฟฟ์, เอ็มมา วอตสัน และ รูเพิร์ต กรินต์ ที่งานฉายรอบปฐมทัศน์โลกของ เครื่องรางยมทูต ภาค 2 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ที่ ทราฟาลการ์สแควร์ ที่ ลอนดอน

แฮร์รี่, รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ออกตามหาและทำลาย ฮอร์ครักซ์ สิ่งที่ทำให้ ลอร์ดโวลเดอมอร์ เป็นอมตะ ทั้งสามคนฝ่าอุปสรรคมากมายระหว่างเดินทาง ทั้งผู้เสพความตาย, นักต้อนและเครื่องรางยมทูตปริศนา จิตใจที่เชื่อมต่อกันระหว่างแฮร์รี่กับลอร์ดมืดนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ[82]

กำหนดการฉายเดิมสำหรับภาพยนตร์เดี่ยวนั้นคือ 13 มีนาคม ค.ศ. 2008 แต่ว่า วอร์เนอร์บราเธอส์ ประกาศแบ่งภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือ เครื่องรางยมทูต เป็นสองตอนเพื่อให้ความยุติธรรมกับหนังสือและความเคารพต่อแฟน ๆ เยตส์ ผู้กำกับภาคที่ห้าและหกกลับมาทำหน้าที่เดิมและโคลฟส์ก็ยืนยันว่าทำหน้าที่เขียนบทเช่นเดิม[83] โรว์ลิงเป็นผู้อำนวยการสร้างครั้งแรกในภาพยนตร์ชุดนี้ร่วมกับเฮย์แมนและบาร์รอน อย่างไรก็ตามเยตส์บอกว่า การมีส่วนร่วมของเธอนั้นไม่ได้ทำให้กระบวนการสร้างภาพยนตร์เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด[84][85] งานก่อนการผลิตเริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2009[86] ขณะที่การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ที่ลิฟส์เดนสตูดิโอที่ ๆ ซึ่งภาพยนตร์หกภาคก่อนหน้านี้ถ่ายทำ นอกจากนี้ยังถ่ายทำที่ ไพน์วูดสตูดิโอ เป็นสตูดิโอถ่ายทำแห่งที่สองสำหรับภาพยนตร์ภาคที่เจ็ด[23][87] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 ที่ เอมไพร์, เลสเตอร์สแควร์ ที่ ลอนดอน และฉายทั่วไปที่สหราชอาณจักรและสหรัฐเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน[88]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 (2011)

แฮร์รรี่, รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ออกตามหาและทำลายฮอร์ครักซ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ขณะที่แฮร์รี่เตรียมตัวต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับโวลเดอมอร์[89]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 ถูกประกาศเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ว่าจะเป็นตอนที่สองของภาพยนตร์ต่อจาก เครื่องรางยมทูต ภาค 1 เยตส์และโคลฟส์ทำหน้าที่กำกับและเขียนบทเช่นเดิม[83] โดยโคลฟส์เริ่มงานเขียนบทในภาคที่สองเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 หลังเขียนบทภาคแรกเสร็จ[90] เครื่องรางยมทูต ภาค 2 นั้นถ่ายทำร่วมกับ เครื่องรางยมทูต ภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ถึง 12 มิถุนายน ค.ศ. 2010[91][23][92] โดยถือว่าเป็นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดียว[93] มีการยืนยันว่าจะมีการถ่ายซ่อมช่วงต้นฤดูหนาวปี ค.ศ. 2010 สำหรับฉากสุดท้ายและฉากส่งท้ายของภาพยนตร์ ซึ่งแต่เดิมนั้นจะถ่ายทำที่ สถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอส แต่ถ่ายทำที่ลิฟส์เดนสตูดิโอแทนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2010[94] เป็นการปิดฉากของภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ดำเนินการถ่ายทำมาตลอดสิบปี[95]

ภาพยนตร์ฉายรอบปฐมทัศน์โลกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ที่ ทราฟาลการ์สแควร์ ที่ ลอนดอน[96] ฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหรัฐเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ ลินคอล์นเซ็นเตอร์ ที่ นิวยอร์ก[97] ถึงแม้ภาพยนตร์จะถ่ายทำในระบบสองมิติ แต่ก็มีการแปลงเป็นสามมิติในช่วงหลังการผลิตและฉายในระบบ RealD 3D และ IMAX 3D,[98] กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดที่ฉายระบบนี้[99] ภาพยนตร์ฉายทั่วไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐ[96]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โลกเวทมนตร์ http://raisingchildren.net.au/movies/harry_potter_... http://movies.about.com/od/harrypotter4/a/goblet06... http://www.boxofficemojo.com/franchises/?view=Fran... http://www.boxofficemojo.com/franchises/chart/?id=... http://www.boxofficemojo.com/franchises/chart/?id=... http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=fantasticb... http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=harrypotte... http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=harrypotte... http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=harrypotte... http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=harrypotte...